Silver Residence
เติบโตตามกระแส Silver Gen
กำลังซื้อที่สูงกว่าวัยอื่นๆ ทำให้กลุ่ม Silver Gen กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนว Silver Residence เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักคือ มีเงินออมและรายได้มั่นคง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยเกษียณหรือใกล้เกษียณที่มีเงินออมสะสมจากการทำงานมายาวนาน หลายรายยังมีรายได้ต่อเนื่องจากการลงทุนหรือบำนาญ ไม่ต้องแบก

รับภาระหนี้สินหรือเลี้ยงดูครอบครัวเหมือนคนวัยทำงาน ทำให้มีศักยภาพในการเลือกซื้ออสังหาฯ คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์สุขภาพ ความปลอดภัย และไลฟ์สไตล์
ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยจึงหันมาพัฒนาโครงการ Silver Residence เพิ่มมากขึ้น ทั้งในรูปแบบ Independent Living (รูปแบบที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรง ช่วยเหลือตัวเองได้), Assisted Living (รูปแบบที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือบางส่วนในชีวิตประจำวัน แต่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง) และ Wellness Residence (รูปแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยผสานแนวคิดการอยู่อาศัย เข้ากับการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม) เช่น อาคารที่พัก+ศูนย์การแพทย์ (mixed‑use) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุและกลุ่ม Silver Gen ที่มีฟังก์ชั่นสำคัญๆ ได้แก่
- Universal Design เช่น ไม่มีขั้นบันได พื้นกันลื่น ประตู-ทางเดินกว้าง ห้องน้ำมีราวจับและมีระบบกันล้มกันลื่น
- ระบบ Smart Safety เช่น ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน เซ็นเซอร์ตรวจจับการล้ม CCTV ภายในโครงการและระบบแจ้งเตือนผ่านแอป
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่สีเขียว เดินเล่นได้ ทำกิจกรรมได้ เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน
- มีบริการด้านสุขภาพครบวงจร เช่น ศูนย์พยาบาล คลินิคหรือศูนย์การแพทย์ หรือมีการเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลพาร์ทเนอร์ที่ให้คำปรึกษาออนไลน์ (Telemedicine) และส่งต่อการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการพัฒนาโครงการ Silver Age Residence and Medical Center และที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด “ศูนย์ที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจร” มีโครงการหลักๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ได้แก่
- โครงการ Senior Complex รามาฯ–ธนารักษ์ ของภาครัฐ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลรามาธิบดี และกรมธนารักษ์ แบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (ECH) และฮอสพิซ ที่พักอาศัย (Senior Housing) – คอนโด Low‑Rise 8 ชั้น และบ้านพักผู้ป่วยระยะท้าย / สถานบริบาลผู้สูงอายุ ECH (Elderly Comprehensive Health Center) คือ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะผู้สูงอายุ ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงรุกก่อนเจ็บป่วย รวมถึงเป็น แหล่งเรียนรู้และฝึกอบรมสำหรับคนดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) “ฮอสพิซ” (Hospice) คือรูปแบบการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย โดยเน้นที่ คุณภาพชีวิตมากกว่าการรักษาเพื่อหายขาด มีเป้าหมายหลักให้ผู้ป่วยลดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน มีชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างสงบ พร้อมทั้งดูแลด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ
- โครงการ “Silver Age Residence and Medical Center” โดย บ. ไซมิส แอสเสท จก. (มหาชน) ร่วมกับ โรงพยาบาลศรีพัฒน์ เชียงใหม่ ที่มีฟังก์ชันหลักเป็นมิกซ์ยูส มีคอนโดผู้สูงอายุ โรงแรมและห้องเช่าระยะยาว ร่วมกับ โรงพยาบาลฟื้นฟู
- โครงการ “BDMS Silver Wellness & Residence” โดย บ. กรุงเทพดุสิตเวชการ จก. (มหาชน) หรือ BDMS ที่มีหลายฟังก์ชัน ทั้งที่พักรูปแบบ Silver Residence ศูนย์ดูแลเชิงป้องกัน (Wellness & Longevity) ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูเฉพาะบุคคล และ โรงแรมเชิงสุขภาพ และศูนย์วิจัยนวัตกรรม ฯลฯ
- โครงการ Wellness Residence โดย Sansiri–Tokyu–Samitivej เป็นการร่วมทุนของ บ. แสนสิริ จก. (มหาชน) โตเกียว คอร์ปอเรชั่น (Tokyo Corporation) และ สหโตเกียว (Saha Tokyo) โดยมีโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ร่วมเป็นพันธมิตรทางสุขภาพ มีจุดเด่นเรื่อง ออกแบบด้วยหลักสากลรองรับทุกช่วงวัยและผู้สูงอายุ เน้นความปลอดภัย สะดวกสบาย (Universal Design & WELL Standard) มี Wellness Community & Facilities มี Smart Life Center ที่รองรับการบำบัดเชิงรุก และมีบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ 24 ชม. ส่งยาถึงบ้าน และระบบฉุกเฉิน Smart Emergency ฯลฯ
และยังมีโครงการที่พัฒนาโดยเอกชนอีกมากกว่า 50 โครงการ ครอบคลุมทั้งคอนโด, วิลล่า, บ้านแถว ในทำเลทั้งกรุงเทพฯ–ปริมณฑล และหัวเมืองหลัก เช่น อยุธยา, สระบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา, หัวหิน, ภูเก็ต โดยรูปแบบโครงการมีทั้งการขายขาด การเช่าช่วงชีวิต/ตลอดชีพ

Silver Gen กำลังซื้อแกร่ง! เกือบครึ่งมีเงินพร้อมซื้อบ้านใหม่ในทันที
จากผลสำรวจโดย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study พบว่า ผู้สูงอายุไทยวัย 60 ปีขึ้นไปถึง 48% มีเงินออมพร้อมสำหรับซื้อบ้านใหม่ได้ทันที ขณะที่อีก 42% แม้ยังไม่ถึงเป้าหมายแต่ก็ออมเงินมาได้มากกว่าครึ่งทางแล้ว ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและน่าจับตามองอย่างมากในตลาดอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่ากว่า 1 ใน 3 ของกลุ่ม Silver gen (ประมาณ 37%) มีแผนจะซื้อบ้านภายใน 1 ปีข้างหน้า โดยเหตุผลหลักที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่ใหม่คือ
- ต้องการพื้นที่ส่วนตัว 44%
- ต้องการเปลี่ยนทำเลหรือบรรยากาศใหม่ 31%
- ให้ความสำคัญกับความสะดวกที่มากขึ้น เช่น อยู่ใกล้โรงพยาบาล ที่ทำงาน 26%
- ซื้อเพื่อลงทุน 26%
- ซื้อบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับสมาชิกในครอบครัวมีเพียง 15%
ผู้สูงวัยยุคใหม่หรือชาว Silver Gen ไม่ได้มองหาบ้านแค่เพื่ออยู่อาศัยอีกต่อไป แต่ต้องการพื้นที่ชีวิตที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย ด้วยทัศนคติที่เปลี่ยนไปจากผู้สูงวัยในอดีต คนกลุ่มนี้ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีอิสระและศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน พร้อมตัดสินใจเรื่องสำคัญต่าง ๆ ด้วยตัวเอง บ้านในมุมมองของพวกเขาจึงต้องเป็นมากกว่าที่พัก แต่คือสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและเป็นสุขในทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.ddproperty.com 5 ปัจจัยที่ผู้สูงวัยมองหา เมื่อต้องการซื้อบ้าน
https://www.bangkokbiznews.com/business/968425
https://www.nso.go.th/
